วิธีการคำนวณหาขนาดของถังแรงดันไดอะแฟรมที่ใช้ในระบบบูสเตอร์ปั๊ม

บูสเตอร์ปั๊มดีๆ

วิธีการคำนวณหาขนาดของถังแรงดันไดอะแฟรมที่ใช้ในระบบบูสเตอร์ปั๊ม

ตารางถังแรงดันของผู้จำหน่ายบูสเตอร์ปั๊ม

 

วิธีการคำนวณหาขนาดของถังแรงดันไดอะแฟรมที่ใช้ในระบบบูสเตอร์ปั๊ม
เป็นสูตรที่ใช้ในการคำนวณหาปริมาณน้ำที่เหมาะสมสำหรับเก็บในถังแรงดันไดอะแฟรม มีสูตรดังนี้

Effective water reserve (DV) = 16.5 x Q/n
Q=ความต้องการน้ำสูงสุด, ลิตร/นาที
n = จำนวนครั้งที่ปั๊มน้ำสตาร์ทสูงสุดใน 1 ชั่วโมง

ตัวอย่างเช่น อัตราสูบบูสเตอร์ปั๊มเฉลี่ย 165ลิตร/นาที โดยต้องการให้ปั๊มน้ำทำงานประมาณ 10 ครั้ง/ชม. และตั้งสวิทช์แรงดันต่ำสุดหรือแรงดันเริ่มสตาร์ทของปั๊มน้ำ (P.s) = 2 บาร์ สำหรับแรงดันสูงสุดหรือหยุดการทำงานของปั๊มน้ำ (P.p) = 3.5 บาร์
Effective water reserve (DV) = 16.5 x Q/n
DV = 16.5 x 165/10
DV = 272 ลิตร

นำค่า DV ที่คำนวณได้ไปเปรียบเทียบในตารางถังแรงดันระบบบูสเตอร์ปั๊มของผู้จำหน่ายบูสเตอร์ปั๊มเพื่อหาขนาดของถังแรงดันไดอะแฟรมที่เหมาะสมกับปริมาณน้ำที่ต้องเก็บโดยใช้จุดตั้งสวิทช์แรงดันต่ำสุดและจุดตั้งสวิทช์แรงดันสูงสุดของปั๊มน้ำเป็นข้อกำหนดในการเลือกขนาดถังแรงดันไดอะแฟรม ซึ่งการเลือกขนาดของถังแรงดันไดอะแฟรมเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก 80% ของปัญหาระบบบูสเตอร์ปั๊มมาจากถังแรงดันไดอะแฟรมที่มีขนาดไม่เหมาะสมในการใช้งาน รวมไปถึงการดูแลรักษาโดยถังแรงดันไดอะแฟรมควรเปลี่ยนถุงยางไดอะแฟรมทุก ๆ 2-3 ปี และควรเติมลมในปริมาณที่เหมาะสมทุก ๆ 3 เดือน ซึ่งการดูแลรักษาถังแรงดันไดอะแฟรมอย่างถูกวิธีจะช่วยทำให้ระบบบูสเตอร์ปั๊มมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ได้อีกด้วย

สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือการติดตั้งบูสเตอร์ปั๊มซึ่งรูปแบบการติดตั้งบูสเตอร์ปั๊มมี 2 แบบคือการติดตั้งที่ด้านล่างของอาคารและการติดตั้งที่ด้านบนของอาคาร โดยการติดตั้งบูสเตอร์ปั๊มที่ด้านล่างของอาคารจะใช้สำหรับอาคารที่สูงไม่เกิน 5 ชั้นหรือหน้างานที่ต้องการใช้น้ำที่มีแรงดันคงที่ สำหรับการติดตั้งบูสเตอร์ปั๊มที่ด้านบนของอาคารจะใช้สำหรับอาคารที่มีความสูงมากกว่า 5 ชั้นขึ้นไปหรืออาคารสูง ๆ โดยจะใช้บูสเตอร์ปั๊มในการจ่ายน้ำให้กับชั้นสูง ๆ ส่วนชั้นล่างจะใช้แรงโน้มถ่วงให้น้ำไหลไปตามท่อน้ำตามธรรมชาติซึ่งบูสเตอร์ปั๊มจะช่วยให้ทุกชั้นมีแรงดันในการใช้น้ำอย่างสม่ำเสมอทำให้มีน้ำใช้ในทุกจุดที่ต้องการใช้งาน ซึ่งการที่มีบูสเตอร์ปั๊มจะเป็นตัวขับเคลื่อนน้ำทำให้การดำเนินอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ ที่ต้องใช้น้ำมีความลื่นไหลไม่สะดุด ที่จะช่วยสร้างผลกำไรให้ธุรกิจได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

แชร์บทความ :

Facebook
X